
วันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา พระราชอุปเสนาภรณ์ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๑, พระราชกิจจาภรณ์ และพระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เยี่ยมชม อนุสรณ์สถาน ๑๐๐ ปีชาตกาลพระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) สกุลเดิม ประสานพิมพ์ (พ.ศ.๒๔๖๙-๒๕๕๑ ) ณ โนนต้นบก ดงพระคเณศ ใกล้ทางลงหาดบุ่งสระพัง บ้านปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ตำบลกุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
โดยที่ศิษยานุศิษย์และลูกหลานชาวบ้านปากน้ำ ได้สร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ไว้ เพื่อรำลึกถึงสถานที่ พระมงคลธรรมวัฒน์ ปักกลดภาวนานิมิตเห็นฆ้องทองคำใหญ่ ปริมณฑลโดยรอบกลดที่ท่านจำวัด ผุดจากพื้นดินหนุนท่านขึ้นมา ศรีษะท่านหนุนอยู่บนจูมฆ้อง ปลายเท้าอยู่ขอบปากฆ้อง
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นขณะพระมงคลธรรมวัฒน์แสวงวิเวกไปตามป่าดงริมแม่น้ำมูล ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๑๘
“จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน”
เมื่อถึงวันศีล (วันพระ) มักจะเห็นแสงไฟสีเขียวเท่าลำตาลพุ่งขึ้นจากโนนบกสว่างไสวมาทางวัดป่าพระพิฆเณศวร์ มองเห็นจากที่ไกลได้ราว ๑ กิโลเมตร จากนั้น จะตามมาด้วยเสียงฆ้องทองคำใหญ่ดังสะท้อนป่ามาจากหนองสะทัง บางครั้งจะเห็นต้นไม้ล้มเป็นทางยาวไปตามป่า คนเฒ่าคนแก่บอกลูกหลานว่า “ฮอยปู่ลากฆ้องทองคำไปเสื่อง”
นอกจากนั้น บริเวณโนนต้นบกในดงพระคเณศมักจะมีไฟพะเนียงพุ่งขึ้นจากดินแล้ววิ่งหายเข้าไปในป่าโนนบกใหญ่บ้าง วิ่งหายเข้าไปในวัดป่าพระพิฆเณศวร์บ้าง วิ่งหายลงไปในหนองวัดบ้าง บางทีก็หายลงไปในหนองสะทัง คนเฒ่าคนแก่บอกลูกบอกหลานว่า “ปู่เพิ่นเสี่ยน(เคลื่อนย้าย)สมบัติหนี ย้านคนหาพ้อ”
บางค่ำคืนก็จะมีดวงไฟสีเขียวมรกตสุกสว่างลอยดวงจากหอปู่บุ่งสระพังมาดงพระคเณศ แล้วลอยจากดงพระคเณศขึ้นไปหมู่บ้านปากน้ำ คนเฒ่าคนแก่นบอกลูกบอกหลานว่า
“ปู่เพิ่นเสี่ยน(เคลื่อนย้าย)สมบัติหนี ย้านคนหาพ้อ” “ปู่วัดป่า เพิ่นขึ้นมายามกัน”